เปิดชีวิต ท้าวทองกีบม้า

เปิดชีวิต ท้าวทองกีบม้า หลังพ้นวิบากกรรม

วันที่ 18 ธ.ค.66 ละคร ‘พรหมลิขิต’ เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว โดยมีฉากหนึ่งที่คุณหญิงการะเกด เข้ามาพูดคุยกับ ท้าวทองกีบม้า หลังผ่านพ้นวิบากกรรม กลับมารับราชการในราชสำนักฝ่ายใน ทำหน้าที่ดูเครื่องเงินเครื่องทอง เป็นหัวหน้าพนักงานภูษามาลา สำหรับมา มาดามฟอลคอน (ท้าวทองกีบม้า) มีชีวิตเป็นสุข กระทั่งเมื่อสิ้นท่านเจ้าพระยาวิชเยนทร์ (ถูกสั่งประหารคืนวันที่ 5 มิ.ย. พ.ศ. 2231) ราชสำนักส่งเจ้าพนักงานมายึดบ้านเรือน ทรัพย์สินที่มีทั้งหมด ไม่เว้นแม้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ชีวิตของมาดามฟอลคอนมิใช่แค่คืนสู่สามัญเช่นก่อนที่เธอจะสมรสกับท่านเจ้าพระยา หากเป็นชีวิตที่ตรากตรำและคับแค้นยิ่ง

เพราะนอกจากจะสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว ขุนหลวงสรศักดิ์พระราชโอรสของสมเด็จพระเพทราชายังหมายปองในตัวเธอด้วย โดยได้พยายามหว่านล้อม ข่มขู่ และทรมานให้เธอยินยอม แต่ มาดามฟอลคอน ปฏิเสธหนักแน่น และพยามยามขอความช่วยเหลือจากนายพล เดส์ฟาร์จ นายทหารฝรั่งเศสที่เธอและสามีเคยอุปการะ และมอบทรัพย์สินให้กว่า 10,000 ลีร์ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หากความหวังสุดท้ายของเธอก็พึ่งไม่ได้ สุดท้ายเธอก็ถูกกุมขัง

จนเวลาผ่านไปขุนหลวงสรศักดิ์เลิกสนใจในตัวมาดามฟอลคอน เธอจึงใช้ชีวิตทำงานในห้องเครื่องต้นอย่างสงบขึ้น ขนมที่มีไข่และน้ำตาลเป็นส่วนประกอบตามอย่างโปรตุเกส เช่น ทองหยอด ฝอยทอง ทองพลุ ขนมผิง ฯลฯ

ชีวิตของเธอพลิกฟื้นขึ้นอีกครั้งหลังจากที่สามีเสียชีวิตไป 20 ปี เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระเสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กลับมารับราชการในราชสำนักฝ่ายใน ทำหน้าที่ดูเครื่องเงินเครื่องทอง เป็นหัวหน้าพนักงานภูษามาลา ซึ่งเธอปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีและซื่อสัตย์จนเป็นที่โปรดปรานของพระองค์ ถึงกับทรงสั่งให้หานายยอร์ชบุตรของเธอมาเข้าเฝ้า และโปรดให้รับใช้ใกล้ชิด ทั้งได้โปรดเป็นครูสอนภาษาไทยด้วยพระองค์เอง